การเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพ คือ การสอนที่พบว่าหลังจากเด็กได้รับความรู้ หรือมีพัฒนาการในด้านต่าง ๆ เพิ่มขึ้นตามวัตถุประสงค์ที่ครูตั้งไว้ ซึ่งครูอาจมีวิธีการมากมายที่จะทำให้เด็กเกิดการเรียนรู้ แต่ไม่ได้หมายความว่า ครูเลือกใช้วิธีการใดวิธีการหนึ่งแล้วประสบความสำเร็จ จึงใช้วิธีการเดียวกันนี้สำหรับสอนเด็กทุกคน เพื่อให้เด็กเหล่านี้พัฒนาขึ้นเท่าเทียมกัน ทั้งนี้เพราะว่าเด็กมีพื้นฐานต่างกัน ความรู้ความสามารถของเด็กแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน คุณภาพของผู้เรียนนั้นนอกจากจะเกี่ยวข้องกับองค์ประกอบในตัวผู้เรียนเอง เช่นความพร้อม สติปัญญา เจตคติ และสภาพแวดล้อมอื่น ๆ แล้ว
กระบวนการเรียนการสอนที่ครูจัดให้ ก็นับว่าเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำนวัตกรรมต่าง ๆ มาใช้ในการจัดการเรียนการสอนเพื่อให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ เข้าใจในสิ่งที่ต้องการให้ผู้รู้นั้น นับว่าเป็นอีกก้าวหนึ่งของการพัฒนาคุณภาพของผู้เรียน ดังนั้นเพื่อให้เกิดประโยชน์โดยตรงต่อการส่งเสริมให้ผู้สอนได้เห็นแนวทางในการสอนให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้นความรู้เรื่อง เทคนิคการสอนแนวใหม่จึงมีความจำเป็นที่ผู้สอนควรจะศึกษาเพื่อจะเป็น “ ผู้สอนในยุคโลกาภิวัตน์ ”
โดยผู้สอนนำกระบวนการการเรียนการสอนเหล่านี้มาพัฒนาเทคนิคการสอน เพื่อกระตุ้นให้มีผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ ซึ่งมีรูปแบบดังต่อไปนี้
1. การสอนแบบสืบเสาะหาความรู้
2. การสอนแบบโครงงาน
3. การสอนโดยการศึกษานอกสถานที่
4. การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม
5. การสอนเพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
6. การเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน
7. การสอนแบบค้นพบ
2. การสอนแบบโครงงาน
3. การสอนโดยการศึกษานอกสถานที่
4. การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม
5. การสอนเพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
6. การเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน
7. การสอนแบบค้นพบ
เด็กอาจได้รับประโยชน์จากการเรียนการสอนไม่เต็มที่ ถ้าหากครูใช้วิธีการสอนเช่นนั้น ดังนั้นครูจึงต้องปรับเปลี่ยนเทคนิคการสอนเลือกใช้เทคนิคการสอนที่เหมาะสม เพื่อสนองต่อเด็กกลุ่มที่มีความหลากหลายในห้องเรียนรวม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น